วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ลีลาศจุฬา 2553 Final Cuban Rumba E Class [Rookie]

กฏ-กติกากีฬาลีลาศ สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ


กติกาข้อที่ 1
องค์กรที่ควบคุมดูแล
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF) คือ องค์กรที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการแข่งขัน กีฬาลีลาศระดับนานาชาติ ทั้งหมดที่เป็นของสหพันธ์ฯ
กติกาข้อที่ 2
การประยุกต์ใช้กติกา
กติกาข้อนี้ให้ประยุกต์ใช้กับ การแข่งขัน กีฬาลีลาศระดับนานาชาติ ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์กรที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ โดยรวมไปถึงการอนุโลมให้ใช้ในการเต้นรำแบบ Standard, Latin American, New Vogue, American Style, Rock'n Roll, Old Time, Modern และ Latin Sequence
สำหรับกติกาของ Rock'n Roll ให้ใช้กติกาที่กำหนดโดยสมาพันธ์ เวิลด์ ร็อค แอนด์ โรล ( World Rock'n Roll Confederation) ซึ่งเป็นสมาชิกร่วมของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
กติกาข้อที่ 3
เงินรางวัล
ในการแข่งขันกีฬาลีลาศ ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ เงินรางวัลสามารถที่จะจ่ายให้ได้ เท่ากับทางสหพันธ์ฯ จ่ายให้กับการแข่งขัน เวิลด์ โอเพ่น (IDSF World Open) แต่ถ้าผู้ที่จัดการแข่งขัน กำหนดเงินรางวัลไว้สูงกว่าการแข่งขัน เวิลด์ โอเพ่น ของสหพันธ์ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ก่อน
กติกาข้อที่ 4 
การลงโฆษณา
1.
ในการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ คู่แข่งขันจะติดป้ายโฆษณา ของผู้ให้การสนับสนุนได้ไม่เกิน 2 ราย บนชุดสำหรับแข่งขัน และให้มีขนาดไม่เกิน 40 ตารางเซ็นติเมตร ต่อผู้ให้การสนับสนุน 1 ราย ตำแหน่งที่ติดป้ายจะอยู่ที่บริเวณส่วนเอว หรือแขนเสื้อ ป้ายโฆษณาจะติดอยู่ที่ฝ่ายหญิงก็ได้ ฝ่ายชายก็ได้ หรือชาย 1 ราย หญิง 1 รายก็ได้
2.
โฆษณาที่จะลงบนหมายเลขประจำตัวของผู้แข่งขัน จะต้องมีขนาดไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ของขนาดหมายเลขประจำตัวผู้เข้าแข่งขัน
กติกาข้อที่ 5
รุ่นของการแข่งขัน
1.
การแข่งขันชิงแชมเปี้ยนโลกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ( IDSF World Championships )
.
1.1รุ่นผู้ใหญ่ (Adult) เยาวชน (Youth) และยุวชน II (Junior II)
 
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
 
การแข่งขันชิงแชมเปี้ยนโลกของ IDSF ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
กค.การลีลาศประเภท Over Ten Dances ( Standard และ Latin American )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังทุกๆสมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ
 
ค.
การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาชิกของสหพันธ์ฯ ทุกๆสมาคม มีสิทธิส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันได้ สมาคมละ 2 คู่
 
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ดูกติกาข้อที่ 8
1.2รุ่นอาวุโส ( Senior )
 
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมเปี้ยนโลกรุ่นอาวุโส ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังทุกๆสมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ
ค.
การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ มีสิทธิส่งคู่แข่งขันเข้าร่วมได้ สมาคมละ 2 คู่
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านที่พัก ให้แก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 1 คืน แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนค่าใช้จ่ายของประธานกรรมการและกรรมการผู้ตัดสิน ให้เป็นไปตามกติกาข้อที่ 8
จ.
เกณฑ์อายุของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนโลกรุ่นอาวุโสนานาชาติ อย่างน้อยทั้งคู่จะต้องมีอายุครบ 35 ปี บริบูรณ์
 
2.
การแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมเปี้ยนระดับภาคพื้นทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF Continental Championships)
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมเปี้ยนระดับภาคพื้นทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
กค.การลีลาศประเภท Over Ten Dances ( Standard และ Latin American )
กง.การลีลาศประเภท Formation ( Standard และ Latin American )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังทุกๆสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ ที่มีที่ตั้งตามทวีปต่างๆ ทั้งนี้ ในระบบทางการกีฬา ให้ถือว่าประเทศอิสราเอล จัดอยู่ในกลุ่มทวีปยุโรป
ค.
การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาชิกของสหพันธ์ทั้งหมด มีสิทธิส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันได้ สมาคมละ 2 คู่
การแข่งขันประเภท Over Ten Dance ชิงแชมเปี้ยนภาคพื้นทวีป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ กำหนดให้แต่ละสมาคม ส่งคู่แข่งขันเข้าร่วมการแข่งขันได้สมาคมละ 1 คู่
การแข่งขันประเภท Formation ชิงแชมเปี้ยนภาคพื้นทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ สมาชิกของสหพันธ์ ทุกสมาคม สามารถส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันได้ ประเภทละ 2 ทีม
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่าย ให้ดูกติกาข้อที่ 8
3.
การแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมเปี้ยนภาคพื้นอนุทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF Sub-Continental Championships)
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมเปี้ยนระดับภาคพื้นอนุทวีปยุโรป ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังทุกๆสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ อย่างน้อย 4 สมาคม
ค.
การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาชิกของสหพันธ์ฯ ทุกๆสมาคม มีสิทธิส่งคู่แข่งขันเข้าร่วมในการแข่งขันสมาคมละ 2 คู่ โดยเจ้าภาพที่จัดการแข่งขัน สามารถเชิญสมาคมที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน ให้ส่งคู่แข่งขันเพิ่มเติมได้อีก 1 คู่
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ดูกติกาข้อที่ 8
 
4.
การแข่งขันกีฬาลีลาศสะสมคะแนนเพื่อจัดอันดับโลก ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF World Ranking Tournaments )
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ แบ่งการแข่งขันเพื่อจัดอันดับโลก ออกเป็น 4 ประเภท คือ
ก.
การแข่งขันซุปเปอร์เวิลด์คัพ ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ( IDSF Super World Cup )
ข.
การแข่งขันเวิลด์โอเพ่น ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ( IDSF World Open )
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะจัดการแข่งขันเวิลด์โอเพ่น ในประเภท Standard และประเภท Latin American โดยมีเงินรางวัลตอบแทน และคะแนนสะสมในการจัดอันดับโลกด้วยคอมพิวเตอร์
ค.
การแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนลโอเพ่น ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ( IDSF International Open )
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะจัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนลโอเพ่น ในประเภท Standard และประเภท Latin American โดยมีคะแนนสะสมเพื่อจัดอันดับโลกด้วยคอมพิวเตอร์ ประกอบกับการพิจารณาเห็นชอบ จากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์
ง.
การแข่งขัน ไอ ดี เอส เอฟ โอเพ่น ( IDSF Open )
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะจัดการแข่งขัน ไอ ดี เอส เอฟ โอเพ่น ในประเภท Standard และประเภท Latin American โดยมีคะแนนสะสมในการจัดอันดับโลกด้วยคอมพิวเตอร์ ประกอบกับการพิจารณาเห็นชอบ จากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์
 
 
อนึ่ง ในรายละเอียดของระเบียบการแข่งขัน ที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ คณะกรรมการบริหาร ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะแจ้งให้ทราบเป็นครั้งๆ ไป
 
 
5.
การแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเทชั่น (International Invitation Competitions)
ก.
คำจำกัดความของการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเทชั่น
นอกเหนือจากการแข่งขันประเภททีมคู่ (International Team Matches) และการแข่งขันประเภทแปรขบวนหมู่ (Formation) การแข่งขันให้เปรียบเสมือนเป็นการแข่งขันนานาชาติ ที่คู่แข่งขันที่เข้าร่วมต้องมีอย่างน้อย 4 ประเทศ
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญเฉพาะสมาชิกของสหพันธ์ เข้าร่วมในการแข่งขันเท่านั้น หรือมิเช่นนั้น ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์
ค.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง สมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์
 
6.
การแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเทชั่น สำหรับ ทีม-ฟอร์เมชั่น (International Invitation Competitions for Formation - Teams)
ก.
คำจำกัดความของการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเทชั่น สำหรับ ทีม-ฟอร์เมชั่น
การแข่งขันนี้อาจใช้ชื่อว่า " การแข่งขันฟอร์เมชั่น นานาชาติ " (International Formation Competitions) ถ้ามี ทีม-ฟอร์เมชั่น ส่งเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญเฉพาะสมาชิกของสหพันธ์ เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น หรือมิเช่นนั้น ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์
ค.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง สมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์
 
7.
การแข่งขันเวิลด์คัพ ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF World Cups)
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันเวิลด์คัพ ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
กค.การลีลาศประเภท Over Ten Dances ( Standard และ Latin American )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังทุกๆสมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ จากทวีปต่างๆ อย่างน้อย 18 สมาคม จาก 3 ทวีปขึ้นไป เข้าร่วมในการแข่งขัน สำหรับการแข่งขันที่จัดขึ้นนอกเขตทวีปยุโรป คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ จะจัดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ค.
การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ที่ได้รับเชิญ สามารถส่งคู่แข่งขันเข้าร่วมการแข่งขันได้เพียง 1 คู่
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ดูกติกาข้อที่ 8
8.
การแข่งขันชิงถ้วยของภาคพื้นทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (IDSF Continental Cups)
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันชิงถ้วยของภาคพื้นทวีปยุโรป ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
กค.การลีลาศประเภท Over Ten Dances ( Standard และ Latin American )
กง.การลีลาศประเภท Formation ( Standard และ Latin American )
ทั้งนี้ให้ดู กติกาข้อที่ 14 ข้อย่อยที่ 2 - 13 ประกอบ
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะเชิญไปยังสมาชิกของสหพันธ์ฯ อย่างน้อย 10 สมาคม จากภาคพื้นทวีปที่เกี่ยวข้อง สำหรับการแข่งขันที่จัดนอกเขตทวีปยุโรป คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ จะจัดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ค.
การกำหนดจำนวนคู่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน
สมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ที่ได้รับเชิญ สามารถส่งคู่เข้าร่วมการแข่งขันได้ 1 คู่ และ 1 ทีม สำหรับทีม Formation
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่าย ให้ดูกติกาข้อที่ 8
9.
การแข่งขันนานาชาติ ประเภททีมคู่ ( International Team Matches )
ก.
ประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขัน International Team Matches ประกอบด้วย
กก. การลีลาศประเภท Standard ( Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep )
กข. การลีลาศประเภท Latin American ( Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive )
ข.
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
การแข่งขันเป็นการจัดการแข่งขัน ระหว่างสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ โดยอาจจะจัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในปีใดปีหนึ่ง ในประเทศเดียวกัน และระหว่างสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์เดียวกัน
ค.
การกำหนดจำนวนคู่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน คำจำกัดความของคำว่า " ทีม "
ในแต่ละทีม ต้องมีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 4 คู่ คัดเลือกจากการจัดอันดับคะแนนสะสมของแต่ละประเทศ และต้องไม่มีการเปลี่ยนคู่ในระหว่างที่มีการแข่งขัน
ง.
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ตกลงกันได้โดยอิสระ ระหว่างสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ ที่เกี่ยวข้อง
10.
การแข่งขันประเภท โอเพ่น ( Open Competitions )
เป็นการแข่งขันที่เปิดให้เข้าร่วม เฉพาะคู่แข่งขันของสมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติเท่านั้น คู่แข่งขันที่มาจากประเทศหรือสมาคมใด ที่มิได้อยู่ในเครือของสหพันธ์ฯ หากจะเข้าร่วมทำการแข่งขัน ต้องผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฯก่อน
11.
ระยะเวลาที่ใช้ในการแข่งขัน และอัตราความเร็วของจังหวะดนตรี
ในทุกรอบของการแข่งขัน ระยะเวลาของดนตรีที่ใช้บรรเลงในจังหวะ Waltz, Tango, Slow Foxtrot, Quickstep, Samba, Cha Cha Cha, Rumba และ Paso Doble จะต้องมีอย่างน้อย 1 นาทีครึ่ง สำหรับในจังหวะ Viennese Waltz และ Jive จะต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 1 นาที
อัตราความเร็วของจังหวะดนตรี ในแต่ละรูปแบบของการลีลาศมีดังนี้
Waltz30บาร์ ต่อ นาที Samba50บาร์ ต่อ นาที
Tango33บาร์ ต่อ นาที Cha Cha Cha30บาร์ ต่อ นาที
Viennese Waltz60บาร์ ต่อ นาที Rumba27บาร์ ต่อ นาที
Slow Foxtrot30บาร์ ต่อ นาที Paso Doble62บาร์ ต่อ นาที
Quickstep50บาร์ ต่อ นาที Jive44บาร์ ต่อ นาที
ประเภทของดนตรี
ในการแข่งขันของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติทั้งหมด ดนตรีที่ใช้จะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในแต่ละแบบของการลีลาศ ตัวอย่างเช่น ไม่อนุญาตให้ใช้ดนตรีที่จัดอยู่ในประเภทดิสโก้ ในการลีลาศประเภท ลาตินอเมริกัน
12.
ข้อจำกัดของกติกาการแข่งขัน
 
1.



ในการแข่งขันที่ได้รับการรับรองโดยสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติทั้งหมด ภายใต้กติกาข้อที่ 5 มีข้อจำกัดอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้น คือ ระเบียบการแต่งกายของกลุ่มนักลีลาศ ที่อยู่ในเกณฑ์อายุของยุวชน (Juveniles)

ข้อจำกัดของกฏระเบียบใดๆ ที่ได้จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมาธิการ ที่แต่งตั้งขึ้นโดยสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ระ เบียบการใดที่จะมีการเปลี่ยนแปลง จะมีผลใช้บังคับก็ต่อเมื่อได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้สมาคมที่เป็นสมาชิก ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติได้ทราบล่วงหน้า หลังจากที่ประกาศไปแล้ว 12 เดือน
2.
ข้อจำกัดของกฎระเบียบ จะต้องถูกสังเกตเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 1 คน ผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องได้รับการแต่งตั้ง จากชาติของสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ และต้องได้รับการยืนยันจากสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
3.
ผู้ทรงคุณวุฒิร้องเรียนไปถึงประธานกรรมการ ในข้อที่ว่า มีการทำผิดกฎระเบียบขึ้น ในรอบแรกของการแข่งขัน คู่แข่งขันจะได้รับคำเตือนจากประธานกรรมการ หากมีการทำผิดกฎระเบียบซ้ำขึ้นอีกในรอบถัดไป หรือถึงรอบสุดท้าย คู่แข่งขันจะถูกประธานกรรมการตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน
กติกาข้อที่ 6 
ความชอบธรรมในการจัดการแข่งขัน
คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ มีสิทธิอันชอบธรรมในการจัดการแข่งขันตามกติกา ข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 1-8 และมีสิทธิในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ( ดูกฎระเบียบว่าด้วยการเงิน )
การแข่งขันเหล่านี้ ยกเว้นการแข่งขันที่อยู่ภายใต้กติกาข้อ 5 ข้อย่อยข้อที่ 5 และ 6 จะต้องมีจดหมายเวียนล่วงหน้าไปยังเหล่าสมาชิก ในกรณีที่เป็นพิเศษ คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ มีอำนาจที่จะจัดการแข่งขัน โดยออกคำสั่งโดยตรงให้กับเมืองหรือประเทศ โดยความเห็นชอบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร โดยชาติที่เป็นสมาชิก
กติกาข้อที่ 7
การเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน
การเชิญเข้าร่วมแข่งขันในการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล อินวิเทชั่น ( International Invitation Competitions ) จะต้องดำเนินการขึ้นระหว่างสมาคมที่เป็นสมาชิก การเชิญต้องระบุวันที่ ที่ได้ลงในทะเบียน การแข่งขันของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
กติกาข้อที่ 8
การชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
การชดเชยค่าใช้จ่ายขั้นต่ำต่างๆ ให้กับคู่แข่งขัน ประธานและกรรมการผู้ตัดสินในการแข่งขัน ครอบคลุมไปถึง กติกาข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 1-4, 7 และ 8 ให้เป็นสิทธิ์ขาดของคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฯ
กติกาข้อที่ 9
การใช้สารต้องห้าม
สารต้องห้ามเป็นข้อห้าม ที่เป็นไปตามกฎระเบียบ การควบคุมห้ามใช้สารต้องห้าม ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
กติกาข้อที่ 10
วิธีการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติต่างๆ
1.

ประธานกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง จากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ (โดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง) ซึ่งรับผิดชอบในการควบคุมดูแล การแข่งขันที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ ในการแข่งขันนานาชาติใด ที่ประธานกรรมการไม่ได้ถูกแต่งตั้งโดยสหพันธ์ ผู้จัดการแข่งขันจะต้องแต่งตั้งประธานเอง (โดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง)
2.กรรมการผู้ตัดสิน
 ในการแข่งขันระดับนานาชาติต่างๆ จะต้องมีกรรมการผู้ตัดสิน ทำหน้าที่ตัดสินอย่างน้อย 7 คน โดยเป็นไปตามกติกาข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 1, 2, 4 a - c และ 7 กรรมการผู้ตัดสินอย่างน้อย 5 คน ในข้อย่อยที่ 3, 5, 6 และ 8 กรรมการผู้ตัดสินอย่างน้อย 3 คน ในการแข่งขันประเภท ทีม - คู่ ( Team Matches )
3. สำหรับการแข่งขันต่างๆ ที่อยู่ภายใต้กติกาข้อที่ 5 ยกเว้นข้อย่อยที่ 5 และ 6 กรรมการผู้ตัดสินของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ จะต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ตัดสินของสหพันธ์ฯ
4.
กรรมการผู้ตัดสินของการแข่งขัน ครอบคลุมโดยกติกาข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 1-4 a+b, 7 และ 8 จะต้องได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ กรรมการผู้ตัดสินอย่างน้อย 7 คน ในการตัดสินการแข่งขันระดับนานาชาติ
5. สำหรับการแข่งขันภายใต้กติกาข้อที่ 5 ข้อย่อยที่ 1-4, 7 และ 8 คณะกรรมการผู้ตัดสินจะต้องเชิญจากประเทศต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกัน
6. ในทุกๆ การแข่งขันระดับนานาชาติ คณะกรรมการผู้ตัดสิน จะต้องได้รับการรับรองเป็นทางการ โดยคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
7.ไม่อนุญาตให้กรรมการผู้ตัดสิน ทำหน้าที่ตัดสินคู่ของตัวเอง ในการแข่งขันที่จัดขึ้นสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
กติกาข้อที่ 11
การกำหนดเกณฑ์อายุ
1.
การแบ่งเกณฑ์อายุดังต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในทุกๆ การแข่งขันระดับนานาชาติ และระดับชิงแชมเปี้ยนต่างๆ
.
1.1รุ่นเด็กระดับ I (Juvenile I) นับถึงอายุ 9 ปี หรือต่ำกว่าในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.2รุ่นเด็กระดับ II (Juvenile II) นับถึงอายุ 10 - 11 ปี ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.3รุ่นยุวชนระดับ I (Junior I) นับถึงอายุ 12 - 13 ปี ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.4รุ่นยุวชนระดับ II (Junior II) นับถึงอายุ 14 - 15 ปี ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.5รุ่นเยาวชน (Youth) นับถึงอายุ 16 - 17 และ 18 ปี ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.6รุ่นผู้ใหญ่ (Adult) นับถึงอายุ 19 ปี ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
1.7รุ่นอาวุโส (Senior) นับถึงอายุ 35 ปี หรือมากกว่า ในปฏิทินที่มีการแข่งขัน
 
อนุญาตให้กลุ่มอายุ 2 กลุ่ม สามารถเข้าแข่งขันร่วมกันได้ ตัวอย่างเช่น รุ่นเด็กระดับ I และ II และ รุ่นยุวชนระดับ I และ II ก็เช่นเดียวกัน รุ่นเยาวชนก็อนุญาตให้เข้าร่วมในการแข่งขันของรุ่นผู้ใหญ่ได้
 
ในกลุ่มเกณฑ์อายุของทุกรุ่น คู่เต้นคนใดคนหนึ่ง สามารถมีอายุน้อยกว่าได้ ยกเว้นในรุ่นอาวุโส
 
2. ในการสมัคร ชื่อคู่แข่งขันเข้าร่วมในการแข่งขัน สมาชิกของผู้จัดการแข่งขันต้องให้ วัน เดือน ปี ที่เกิด แก่ผู้จัดการแข่งขัน
กติกาข้อที่ 12
เครื่องแต่งกายในการแข่งขัน
สำหรับการแข่งขันทั้งหมดที่ได้จัดขึ้นโดย สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ภายใต้กติกาข้อที่ 5 การแต่งกายของผู้เข้าแข่งขัน ให้ปฏิบัติสอดคล้องกับ ระเบียบการแต่งกายของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ระเบียบการแต่งกายสำหรับการแข่งขันของสหพันธ์ฯ เหล่านี้ เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของกติกาการแข่งขัน ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ

สำหรับทุกๆ เกณฑ์อายุ : ส่วนสะโพกของฝ่ายหญิง ต้องปกปิดไว้ให้มิดชิดตลอดเวลา ประธานกรรมการ หรือผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ มีอำนาจที่จะตัดสิทธิ์คู่แข่งขัน ที่สวมใส่ชุดแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของข้อนี้ นอกเหนือจากนี้แล้ว คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฯ จะลงโทษทางวินัย ไม่ให้สิทธิ์คู่แข่งขัน เข้าร่วมในการแข่งขันต่างๆ ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
กติกาข้อที่ 13
คู่แข่งขัน
1.
คำจำกัดความของคู่แข่งขัน
คู่แข่งขัน 1 คู่ จะประกอบด้วย ชาย 1 คน และคู่เต้นที่เป็นหญิง 1 คน
2.
คู่แข่งขันที่ต่างสัญชาติกัน
 
1.1 คู่แข่งขันที่เคยเป็นตัวแทนประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่อนุญาตให้เป็นตัวแทนของประเทศอื่นอีก จนกว่าเวลาจะผ่านพ้นไป 12 เดือน
2.2

ในกรณีที่เป็นการแข่งขัน ที่จัดโดยคณะกรรมการโอลิมปิคสากล ( IOC ) หรือสมาคมเวิลด์เกมส์นานาชาติ ( IWGA ) ไม่อนุญาตให้คู่แข่งขันที่ต่างสัญชาติกัน เข้าร่วมทำการแข่งขัน เพื่อให้เป็นไปตามกฎของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล คู่แข่งขันที่เป็นตัวแทนของชาตินั้น นักแข่งขันแต่ละคน จะต้องมีหนังสือเดินทางของชาติของตน ซึ่งส่งโดยสมาคมที่เป็นสมาชิกของ สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
2.3
การแข่งขันชิงถ้วย Formation ของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ( IDSF Championships / Cups Formation ) อย่างน้อยต้องมีนักกีฬาเข้าแข่งขันจำนวน 12 คน ในหนึ่งทีม ที่จะต้องจัดส่งหนังสือเดินทางของชาติตนเอง โดยสมาคมที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ
กติกาข้อที่ 14
การแข่งขันชิงแชมเปี้ยนฟอร์เมชั่นนานาชาติ ( International Formation Championships )
1.
การจัดการแข่งขันชิงแชมเปี้ยน Formation อาจจัดขึ้นได้ 2 รูปแบบ
ก.
การลีลาศประเภท Standard
ข.
การลีลาศประเภท Latin American
 
2.
เครื่องแต่งกายที่ใช้ในการแข่งขัน
ประเภท Standard
การแต่งกายของชาย จะต้องเป็นสีดำ หรือสีกรมท่า
ประเภท Latin American
การแต่งกายของชาย ให้มีสีสันต์หลากหลายได้ แต่ฝ่ายชายจะต้องใส่ชุดแข่งขันเป็นสีเดียวกันหมดทั้งทีม ไม่อนุญาตให้สวมใส่เครื่องประดับใดๆ ทั้งสิ้น
3.
ทีมของการแข่งขันประเภท Standard จะต้องเลือกใช้รูปแบบของเบสิค อย่างน้อย 16 บาร์ ในแต่ละรูปแบบของการแข่งขัน ในจังหวะ Waltz, Tango, Viennese Waltz, Slow Foxtrot และ Quickstep ในทุกๆ รูปแบบของการลีลาศ รวมไปถึงการลีลาศในประเภท Latin American
4.
ทีมของการแข่งขันประเภท Latin American จะต้องเลือกใช้รูปแบบของเบสิค อย่างน้อย 16 บาร์ ในแต่ละรูปแบบของการลีลาศ ในจังหวะ Samba, Cha Cha Cha, Rumba, Paso Doble และ Jive รวมไปถึงการลีลาศในประเภท Standard
5.



การแสดงเดี่ยว ( Solo Work ) ในประเภท Standard จะจำกัดให้แสดงได้ไม่เกิน 8 บาร์ ซึ่งตลอดการแสดงใน 1 จังหวะ จะมีไม่เกิน 24 บาร์ การนี้ไม่รวมไปถึงประเภท Latin American ที่ซึ่งการแยกตัวออกจากกันในแบบแสดงเดี่ยว เป็นปกติของการแสดง การยกลอยขึ้นไม่อนุญาตให้ใช้ในการแสดงของทั้งสองประเภท
ข้อสังเกต การยกลอยขึ้นในลักษณะของการเคลื่อนไหวใดๆ ระหว่างนักลีลาศคนใดคนหนึ่ง ที่เท้าทั้งสองข้างยกพ้นพื้น ซึ่งในขณะเดียวกัน เป็นเวลาที่ได้รับการช่วยสนับสนุนจากคู่ของตนเอง
6.
ในทีมของการแข่งขันชิงแชมป์ทั้งหมด กำหนดให้มี 6 คู่ หรือ 8 คู่ ในหนึ่งทีม ห้ามคนใดคนหนึ่งร่วมแข่งขันเกินกว่าหนึ่งทีม ในการแข่งขันครั้งเดียวกัน
7.
ในการแข่งขันชิงแชมเปี้ยน สมาชิกของทีมอาจมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ที่เป็นตัวสำรองได้ 4 ครั้ง
8.

ไม่มีทีม Formation ใด ใช้รูปแบบของการแสดงยาวเกินกว่า 6 นาที รวมไปถึงการเข้าและการออก ในเวลา 6 นาทีนี้ ช่วงเวลาของการตัดสินของกรรมการผู้ตัดสิน จะมีไม่เกิน 4 นาที กับ 30 วินาที และต้องระบุให้เห็นอย่างชัดเจนในการจัดรูปแบบ ในการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของการแสดง ทีมใดไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัตินี้ อาจถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน โดยประธานกรรมการ
9.
คณะกรรมการตัดสิน ควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการตัดสิน ในการแข่งขันประเภท Formation ซึ่งต้องมีอย่างน้อย 7 คน โดยคัดเลือกจากประเทศต่างๆ ไม่ซ้ำกัน 7 ประเทศ
10.
ควรใช้เทปบันทึกเสียง หรือเครื่องเสียงระบบใดก็ได้
11.
ควรต้องจัดให้มีการฝึกซ้อมอย่างเพียงพอ สำหรับทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน และจัดแบ่งเวลาฝึกซ้อมให้เท่าเทียมกัน ในสถานที่แข่งขันพร้อมกับการให้ใช้ดนตรี
12.
ต้องมีการแต่งตั้งประธานกรรมการ และประธานกรรมการต้องเข้าร่วมในการฝึกซ้อม มีหน้าที่คอยตักเตือนทีมที่ฝ่าฝืนกฏกติกา และถ้ากติกาถูกฝ่าฝืนในระหว่างที่ทำการแข่งขัน ประธานจะมีสิทธิ์ที่จะตัดสิทธิ์ทีมที่ฝ่าฝืนออกจากการแข่งขัน หลังจากที่ได้หารือกับคณะกรรมการผู้ตัดสินแล้ว
ดนตรีที่ใช้และรูปแบบของการแสดงในการฝึกซ้อม และในการแข่งขันจริง จะต้องเป็นรูปแบบเดียวกัน และไม่อนุญาตให้สับเปลี่ยนชุด ระหว่างที่มีการแข่งขัน
13.
หากมีทีมเข้าร่วมในการแข่งขันเกิน 5 ทีม ในการแข่งขันจะต้องจัดให้มีรอบที่ 2 (Second Round)
กติกาข้อที่ 15
อำนาจของคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ
คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฯ มีอำนาจเต็มในการตัดสินปัญหาที่อยู่นอกเหนือกติกานี้
กติกาข้อที่ 16
การประยุกต์ใช้กติกา
สหพันธ์กีฬาลีลาศนานาชาติ ยินยอมให้ชาติที่เป็นสมาชิก นำกติกานี้ไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ และให้ยึดถือเป็นกติกาของประเทศนั้นๆ


อ้างอิง:หนังสือ "กติกาลีลาศ" งานวิชาการ กองการฝึกอบรม สำนักพัฒนาบุคลากรกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545

ประโยชน์ของลีลาศ

          เป็นที่ยอมรับกันในบรรดานักการศึกษาและนักปรัชญามาช้านานแล้วว่า ลีลาศเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่มีคุณประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคมปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาที่สลับซับซ้อนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง สภาพการณ์เหล่านี้เป็นเหตุให้มีประชากรที่มีปัญหาทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจิตแพทย์ , นักจิตวิทยาและนักการศึกษาได้พยายามเน้นและชี้นำให้เห็นถึงความจำเป็นเกี่ยวกับการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถผ่อนคลายความเครียด และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งลีลาศเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยพัฒนาบุคคลในด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจสรุปประโยชน์ของการลีลาศได้ดังนี้
  1. ช่วยส่งเสริมให้บุคคลได้ออกกำลังกาย ทำให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์และมีสมรรถภาพทางกายดีขึ้น
  2. ช่วยพัฒนาทักษะทางกลไก (MOTOR SKILL) ให้ดียิ่งขึ้น
  3. ทำให้ร่างกายมีทรวดทรงและการประสานงานที่ดี ซึ่งนำไปสู่การมีบุคลิกภาพในด้านการเคลื่อนไหวที่ดูสง่างามยิ่งขึ้น
  4. ช่วยผ่อนคลายความเครียดทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
  5. ช่วยให้บุคคลรู้จักการเข้าสังคม รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคมได้ดี ทำให้มีเพื่อนและสมาชิกเพิ่มขึ้น
  6. ส่งเสริมให้บุคคลมีความเชื่อมั่นในตนเองยิ่งขึ้น กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม
  7. ทำให้มีความรู้สึกซาบซึ้งและเข้าใจในวัฒนธรรม ช่วยจรรโลงวัฒนธรรมในทางที่ดีให้คงอยู่ต่อไป
  8. ส่งเสริมให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
    9.  เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (CREATIVE THINKING)ได้เป็นอย่างดี
   
   10. ทำให้มีชีวิตยืนยาวและปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

อ้างอิง:http://courseware.rmutl.ac.th/courses/40/unit106.htm

ประวัติลีลาศในประเทศไทย

การลีลาศในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐานยืนยันได้แน่ชัด สันนิษฐานกันว่าได้เผยแพร่เข้ามาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จุลศักราช 1226 โดยชาวต่างชาติจากบันทึกของแหม่มแอนนาทำให้มีหลักฐานเชื่อได้ว่า เมืองไทยมีคนลีลาศเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และบุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักลีลาศคนแรกก็คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั่นเอง ตามบันทึกของแหม่มแอนนาเล่าว่า แหม่มแอนนาพยายามสอนพระองค์ท่านให้รู้จักวิธีการเต้นรำแบบสุภาพ ซึ่งเป็นที่นิยมของชาติตะวันตก หลังจากที่ได้ดูละครซึ่งแสดงกันในวังแล้วก็เลยมาคุยกันถึงเรื่องการเต้นรำ พร้อมกับแสดงท่าบอกจังหวะวอลทซ์นั้นหรูมาก เขาเต้นกันในวังยุโรป เต้นอย่างนี้ พระองค์ท่านก็ฟังอยู่เฉยๆ ไม่ออกความเห็นอย่างไร แต่พอแหม่มแอนนางงไปเลย ทูลถามว่าใครเป็นคนสอนให้พระองค์ท่านก็ไม่ตอบ จึงไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สอนพระองค์ สันนิษฐานกันว่าพระองค์ท่านคงจะศึกษาจากตำราด้วยพระองค์เอง
ในสมัยรัชกาลที่ 5 การเต้นรำยังไม่เป็นที่นิยมกว้างขวางนัก คงมีแต่เจ้านายในวังบางวังเต้นรำกันพอเป็น ส่วนใหญ่มักจะเต้นจังหวะวอลทซ์เพียงอย่างเดียว และบางครั้งก็เอาการเต้นรำจังหวะวอลทซ์ไปสอดแทรกในการแสดงละครด้วย เช่น เรื่องพระอภัยมณีตอนที่กล่าวถึงนางละเวงได้กับพระอภัยมณี
ในสมัยรัชกาลที่ 6 ทุกปีที่มีงานเฉลิมพระชนมพรรษาก็จะจัดให้มีการเต้นรำขึ้นในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประธาน ซึ่งบรรดาทูตานุฑูตทั้งหลายต้องเข้าเฝ้า ส่วนแขกที่จะไปร่วมงานได้ต้องได้รับบัตรเชิญเท่านั้นจึงจะเข้าไปร่วมงานได้
ในสมัยรัชการที่ 7 การลีลาศได้รับความนิยมมากขึ้นจนเกิดมีสถานที่ลีลาศขึ้นหลายแห่ง เช่น ห้อยเทียนเหลา เก้าชั้นคาเธ่ย์และโลลิต้าเป็นต้น
ในปี ค.ศ.2475 นายหยิบ ณ นคร ซึ่งได้มีโอกาศเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ.2459 และได้ศึกษาวิชาลีลาศไปด้วย ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยได้เข้าร่วมแข่งขันลีลาศชิงแชมป์เปี้ยนภาคเหนือของลอนดอน และได้รับชัยชนะในจังหวะฟอกซ์ทร็อต และวอลทซ์ ได้ร่วมกับหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ จัดตั้งสมาคมเกี่ยวกับการเต้นรำขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “สมาคมสมัครเล่นเต้นรำ” มีหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ เป็นนายกสมาคม นายหยิบ ณ นคร เป็นเลขาธิการสมาคม สำหรับกรรมการสมาคมก็ล้วนแต่เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ได้แก่ หลวงเฉลิมสุนทรกาญจน์ พระยาปกิตกลสาร พระยาวิชิต นายแพทย์เติม บุนนาค หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ และหลวงชาติตระการโกศล สำหรับสถานที่ตั้งสมาคมนั้นไม่แน่นอน วนเวียนไปตามบ้านสมาชิกแล้วแต่สะดวก การตั้งเป็นสมาคมนี้ ไม่ได้จดทะเบียนให้เป็นที่ถูกต้องแต่อย่างใด สมาชิกของสมาคมส่วนมากเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มักพาลูกของตนมาเต้นรำด้วย ทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการจัดงานเต้นรำขึ้นบ่อยๆ ที่สมาคมคณะราษฎร์และวังสราญรมย์ และที่วังสราญรมย์นี้เป็นสถานที่ที่จัดให้มีการแข่งขันเต้นรำขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ชนะเลิศเป็นแชมเปี้ยนคู่แรก คือ พลเรือตรีเฉียบ แสงชูโต และประนอม สุขุม
ระหว่างปี พ.ศ.2475-2476 มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเรียกสมาคมสมัครเล่นเต้นรำว่าสมาคม...(คำผวนของคำว่าเต้นรำ) ซึ่งฟังดูแล้วไม่ไพเราะหู ดังนั้นหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ จึงบัญญัติศัพท์คำว่า “ลีลาศ” ขึ้นแทนคำว่า “เต้นรำ” ต่อมาสมาคมสมัครเล่นเต้นรำก็สลายตัวไป แต่ก็ยังมีการชุมนุมกันของครูลีลาศอยู่เสมอ โดยมีนายหยิบ ณ นคร เป็นผู้ประสานงาน โดยเฉพาะในการส่งนักลีลาศของไทยไปแข่งขันยังต่างประเทศ รวมทั้งให้การต้อนรับนักลีลาศชาวต่างประเทศที่มาเยี่ยมหรือมาแข่งขันในเมืองไทย
การลีลาศซบเซาลงไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งนี้ด้วย จนกระทั่งสงครามสงบลงในเดือนกันยายน พ.ศ.2488 วงการลีลาศของไทยก็เริ่มฟื้นตัวขึ้น มีโรงเรียนสอนลีลาศเกิดขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะสาขาบอลรูมสมัยใหม่ (MODERN BALLROOM BRANCH) ที่อาจารย์ยอด บุรี ซึ่งไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษได้นำมาเผยแพร่ ทำให้การลีลาศซึ่งศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา เป็นผู้นำอยู่ก่อนแล้ว เจริญขึ้นเป็นลำดับ
ต่อมาได้มีบุคคลชั้นนำในการลีลาศซึ่งเคยเป็นผู้ชนะเลิศสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อาทิ อุไร โทณวณิก , กวี กรโกวิท , จำลอง มาณยมณฑล , ปัตตานะ เหมะสุจิ และนายแพทย์ประสบ วรมิศร์ ได้หารือกันถึงแนวความคิดที่จะรวมนักลีลาศทั้งหมดให้อยู่ในสมาคมเดียวกัน เพื่อเป็นการผนึกกำลัง และช่วยกันปรับปรุงมาตรฐานการลีลาศทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งทุกคนเห็นชอบร่วมกัน จึงมีการร่างระเบียบข้อบังคับขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลีลาศให้มีแบบแผนขึ้น ผดุงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและมารยาท ในการเข้าสังคมแบบสุภาพชน และได้ยื่นจดทะเบียนเป็นสมาคมตามกฎหมายเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2491 ซึ่งสภาวัฒนธรรมแห่งชาติได้อนุญาตให้จัดตั้ง “สมาคมลีลาศแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2491 โดยหลวงประพันธ์ไพรัชภาค เลขาธิการสภาวัฒนธรรมในขณะนั้นเป็นผู้ทำพิธีเปิดสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ และมีหลวงประกอบนิติสาร เป็นนายกสมาคมคนแรก ซึ่งปัจจุบันสมาคมลีลาศแห่งประเทศไทยเป็นสมาชิกของสภาการลีลาศนานาชาติ ด้วยประเทศหนึ่ง
หลังจากนั้นการลีลาศในประเทศไทยก็เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยจัดให้มีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น มีสถานลีลาศเปิดเพิ่มขึ้นมาก ประชาชนสนใจเรียนลีลาศเพิ่มขึ้น มีการจัดตั้งสมาคมครูลีลาศขึ้นสำหรับเปิดสอนลีลาศ ทั้งยังได้จัดส่งนักลีลาศไปแข่งขันในต่างประเทศและจัดแข่งขันลีลาศนานาชาติขึ้นในประเทศไทย ในสมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้โรงเรียนสอนลีลาศต่างๆ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และมีการกำหนดหลักสูตรลีลาศขึ้นอย่างเป็นแบบแผน ทำให้การลีลาศมีมาตรฐานยิ่งขึ้น ปัจจุบันการลีลาศในประเทศไทยได้เป็นที่ยอมรับและนิยมในทุกวงการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประชาชนให้ความสนใจ มีโรงเรียนหรือสถาบันเปิดสอนลีลาศขึ้นเกือบทุกจังหวัด ในสถานศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษาก็ได้บรรจุวิชาลีลาศเข้าไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย
 

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประวัติลีลาศในต่างประเทศ

      ในปี ค.ศ. 1588 พระชาวฝรั่งเศสชื่อ โตอิโน อาโบ (Thoinnot Arbeau: ค.ศ. 1519-1589) ได้พิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการเต้นรำ ชื่อ ออเชโซกราฟี (Orchesographin) ในหนังสือได้บรรยายถึงการเต้นรำแบบต่างๆหลายแบบ เป็นหนังสือที่มีคุณค่ามาก บันทึกถึงการเต้นรำที่นิยมใช้กันในบ้านขุนนางต่างๆ ในยุโรประหว่างศตวรรษที่ 16   งานเลี้ยงฉลองได้ถูกจัดขึ้นตามโอกาสต่างๆเช่น วันเกิด การแต่ง งาน และการต้อนรับแขกที่มาเยือนในงานจะรวมพวกการเต้นรำ การประพันธ์ การดนตรี และการจัดฉากละครด้วย ขุนนางผู้หนึ่งชื่อ  Lorenzo de Medlci  ได้จัดงานขึ้นที่คฤหาสน์ของตน โดยตกแต่งคฤหาสน์ด้วยสีสันต่างๆ และจัดให้มีการแข่งขันหลายๆอย่าง รวมทั้ง การเต้นรำสวมหน้ากาก (Mask Dance) ซึ่งต้องใช้จังหวะ ดนตรีประกอบการเต้น         พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิซี (Catherine de Medicis ) พระราชินีในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 เดิมเป็นชาวฟลอเรนซ์แห่งอิตาลี พระองค์ได้นำคณะเต้นรำของอิตาลีมาเผยแพร่ในพระราชวังของฝรั่งเศส และเป็นจุดเริ่มต้นของระบำบัลเล่ย์  พระองค์ได้จัดให้มีการแสดง บัลเล่ย์โดยพระองค์ทรงร่วมแสดงด้วย
ในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้ปรับปรุงและพัฒนาการบัลเล่ย์ใหม่ได้ตั้งโรงเรียนบัลเล่ย์ขึ้นแห่งแรก ชื่อ Academic Royale de Dance จนทำให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของยุโรป พระองค์คลุกคลีกับวงการบัลเล่ย์มาไม่น้อย กว่า 200 ปี โดยพระองค์ทรงร่วมแสดงด้วย บทบาทที่พระองค์ทรงโปรดมากที่สุดคือ บทเทพอพอลโลของกรีก จนพระองค์ได้รับสมญา นามว่า พระราชาแห่งดวงอาทิตย์การบัลเล่ย์ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์มาก
            การเต้นระบำบัลเล่ย์ในพระราชวังนี้เป็นพื้นฐานของการลีลาศ การเต้นรำในปี ค.ศ. 1700 ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ Gavotte,Allemande และMinuet รูปแบบการเต้นจะประกอบด้วยการก้าวเดินหรือวิ่ง การร่อนถลา การขึ้นลงของลำตัว การโค้ง และถอน สายบัว ภายหลังได้แพร่ไปสู่ยุโรปและอเมริกา เป็นที่ชื่นชอบของ ยอร์ช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกามาก   การเต้นรำใน  อังกฤษซึ่งเป็นการเต้นรำพื้นเมืองและนิยมกันมากในยุโรป เรียกว่า Country Dance ภายหลังได้แพร่ไปสู่อาณานิคมตอนใต้ของอเมริกา 
           สมัยก่อน การแสดงบัลเล่ย์มักจะแสดงเรื่องที่เกี่ยวกับเทพเจ้า เทพธิดา แต่สมัยนี้มุ่งแสดงเกี่ยวกับชีวิตคนธรรมดาสามัญ เป็นเรื่องง่ายๆและ จินตนาการ   ในสมัยที่มีการปฏิวัติในฝรั่งเศส ( ค.ศ. 1789 ) ได้มีการกวาดล้างพวกกษัตริย์และพวกขุนนางไป เกิดความรู้สึกอย่างใหม่ คือ ความมีอิสระเสรีเท่าเทียมกัน เกิดการเต้นวอลซ์ ซึ่งรับมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งเชื่อกันว่ามีรากฐานมาจากการเต้น Landler การเต้นวอลทซ์ได้แพร่หลายไปสู่ประเทศที่เจริญแล้วในยุโรปตะวันตก    เนื่องจากการเต้นวอลซ์อนุญาตให้ชายจับมือและเอว ของคู่เต้นรำได้   จึงถูกคณะพระคริสประณามว่าไม่เหมาะสมและไม่สุภาพเรียบร้อย   ในช่วงปี ค.ศ. 1800-1900  การเต้นรำใหม่ๆที่เป็นที่ นิยมกันมากในยุโรปและอเมริกา จะเริ่มต้นจากคนธรรมดาสามัญโดยการเต้นรำพื้นเมือง พวกขุนนางเห็นเข้าก็นำไปประยุกต์ให้เหมาะสมกับ ราชสำนัก เช่น การเต้น โพลก้า วอลซ์ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมมากของคนชั้นกลางและชั้นสูง  ในอเมริการูปแบบใหม่ในการเต้นรำที่นิยมมาก ในหมู่ชนชั้นกรรมาชีพและพวกที่ยากจน คน ผิวดำนิยมเต้น Tap-Danced หรือระบำย่ำเท้า โดยรวมเอาการเต้นรำพื้นเมืองในแอฟริกา การ เต้นแบบจิ๊ก  ( jig) ของชาวไอริส และการเต้นรำแบบคล๊อก (Clog) ของชาวอังกฤษเข้าด้วยกัน คนผิวดำมักจะเต้นไปตามถนนหนทาง   ก่อนปี ค.ศ. 1870  การเต้นรำได้ขยายไปสู่เมืองต่างๆในอเมริกา ผู้หญิงที่ชอบร้องเพลงประสานเสียงจะเต้นระบำแคนแคน (Can-Can ) โดยใช้การเตะเท้าสูงๆ เพื่อเป็นสิ่งบันเทิงใจแก่พวกโคบาลที่อยู่ตามชายแดนอเมริกา ระบำแคน แคน

           จังหวะวอลซ์จากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งเกิดขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 แต่มิได้     เผยแพร่ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1816  จังหวะวอลซ์ ได้ถูกนำมาเผยแพร่ต่อที่ประชุมโดยพระเจ้ายอร์ชที่ 4 แม้จะไม่สมบูรณ์นักในขณะนั้น แต่ก็จัดว่าจังหวะวอลซ์เป็นจังหวะแรกของการลีลาศแท้จริง เพราะคู่ลีลาศสามารถจับคู่เต้นรำได้
ในราวปี ค.ศ. 1840  การเต้นรำบางอย่างกลับมาเป็นที่นิยมอีก อาทิ โพลก้า จากโบฮิเมีย ซึ่งเป็นที่นิยมมากในเวียนนา ปารีส และลอนดอน จังหวะมาเซอก้า( Mazuka) จากโปแลนด์ก็เป็นที่นิยมมากในยุโรปตะวันตก
          ในราวกลางศตวรรที่ 19 การเต้นรำใหม่ๆก็เกิดขึ้นอีกมาก อาทิ การเต้นมิลิตารี่ สก๊อตติช (Millitary Schottische) การเต้นเค็กวอล์ค (Cakewalk) ซึ่งเป็นการเต้นรำแบบหนึ่งของพวกนิโกรในอเมริกา การเต้นทูสเตป (Two-Step) การเต้นบอสตัน (Boston) และการเต้นเตอรกีทรอท (Turkey trot)
          ในศตวรรษที่ 20 ค.ศ. 1910 จังหวะแทงโก้จากอาร์เจนตินา เริ่มเผยแพร่ที่ปารีส เป็นจังหวะที่แปลกและเต้นสวยงามมากในระหว่างปี ค.ศ. 1912-1914 Vemon และ lrene Castle ได้นำรูปแบบการเต้นรำแบบใหม่ๆ จากอังกฤษมาเผยแพร่ในอเมริกาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้แก่จังหวะฟอกซ์ทรอทและแทงโก้


อ้างอิงจาก:kengacting.blogspot.com/2011/05/blog-post_30.html